T.A.S. Corporation นำทีมโดย คุณ ธนากร ศิริวัฒนาเลิศ ตำแหน่ง ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ที.เอ.เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด และคุณ นันทิตา ศิริวัฒนาเลิศ ตำแหน่ง รองประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ที.เอ.เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมฉนวนกันความร้อน ที่มีคุณภาพ รักษ์โลก แบบครบวงจรรายแรกของไทย ด้วยการส่ง TECO PU FOAM ฉนวนกันความร้อนนวัตกรรมใหม่ ที่ถูกคิดค้นมาเพื่อความคุ้มค่าที่สุดสำหรับคนไทย ด้วยเหตุนี้ T.A.S Corporation จึงให้ความสำคัญตั้งแต่การคิดค้น วิจัย พัฒนา และการทดสอบตามมาตรฐานสากล จากศูนย์การทดสอบที่ได้รับการยอมรับทั้งภายในและต่างประเทศ ศูนย์ทดสอบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ(สวทช.) ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางอาคาร (CBIT) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และบริษัท ทูฟ ซูด (ประเทศไทย) จำกัด (TÜV SÜD) และรวมถึงการรับรองมาตรฐาน จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) พร้อมทั้งส่ง Hercules เครื่องผลิตฉนวนกันความร้อนเข้าร่วมงาน The Future of Sustainable Constructions. ESG & NET ZERO MATERIAL เพื่อส่งต่อนวัตกรรม ให้กับกลุ่ม ผู้ออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และร้านค้า เพื่อเข้าสู่ยุควัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งปลูกจิตสำนึกกับผู้บริโภค เพื่อให้เห็นความสำคัญของวัสดุก่อสร้างเพื่อความยั่งยืนและปลอดภัย

T.A.S Corporation ร่วมผลักดันสู่ยุควัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ
อุตสาหกรรมก่อสร้างอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และกำลังก้าวสู่ “ยุควัสดุก่อสร้างคาร์บอนต่ำ” นั้น คุณธนากร ศิริวัฒนาเลิศ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ.เอส. คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้คิดค้น วิจัย และพัฒนา การผลิต ฉนวนกันความร้อน เหล็ก โครงสร้างเหล็ก และโซลาร์เซลล์ กล่าวถึงการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมก่อสร้างในภาพรวมว่า “จากข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ในปี 2020 ที่ระบุว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศโลกสูงที่สุด คิดเป็น 39% ของการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดทั่วโลก โดยแบ่งเป็นการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้พลังงานควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร (Operation carbon) 28% และจากการได้มาซึ่งวัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง (Embodied carbon) อีก 11% และเพื่อบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลกให้เป็นศูนย์ (Net-zero emissions) ภายในปี 2050
ทั้งนี้ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างจำเป็นต้องลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทั้ง Operation carbon และ Embodied carbon ให้เหลือ 60% และ 50% ตามลำดับภายในปี 2030 ที่ผ่านมาจึงมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับวัสดุขึ้นมา เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคการก่อสร้าง และนั่นก็กลายมาเป็น “วัสดุคาร์บอนต่ำ” (Low carbon materials) และเป็นภารกิจของบริษัทฯ ด้วยที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมฉนวนกันความร้อนคุณภาพ รักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม และสามารถลดการปล่อยคาร์บอนออกไซด์ได้อย่างครบวงจรเป็นรายแรกของประเทศไทย ด้วยการพัฒนานวัตกรรม TECO PU FOAM ฉนวนกันความร้อนเพื่อคนไทย และ Hercules เครื่องผลิตฉนวนกันความร้อนเข้าร่วมในงาน The Future of Sustainable Constructions ESG & NET ZERO MATERIAL ที่ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย วันที่ 20 มีนาคม 2568 นี้” ทุกท่านสามารถพบสินค้าเรือธง TECO PU FOAM &Hercules ในงาน The Future of Sustainable Constructions. ESG & NET ZERO MATERIAL


คุณธนากร กล่าวถึงนวัตกรรมฉนวนกันความร้อนระดับคุณภาพ เพื่อความยั่งยืน เพื่อร่วมงาน The Future of Sustainable Constructions ESG & NET ZERO MATERIAL ว่า สำหรับสินค้าที่จะเข้าร่วมงานดังกล่าว บริษัทฯ จะนำสินค้าเรือธง ซึ่งประกอบด้วย
1) TECO PU FOAM เป็นฉนวนกันความร้อนเพื่อคนไทย มีความโดดเด่นที่สามารถเคลือบได้ทุกพื้นผิว ตอบรับทุกดีไซน์ทั้งตรงและดัดโค้ง ที่สำคัญ เป็นนวัตกรรมระดับมาตรฐานสากล และจดอนุสิทธิบัตรและสิทธิบัตรอย่างถูกต้อง ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย อีกทั้งเป็นฉนวนกันความร้อนที่ผ่านคัดเลือกจากประเทศไทย เพื่อนำเสนอต่อชาวโลกที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ T.A.S. Corporation ทำการวิจัย พัฒนา และทดสอบ จากหน่วยงานที่เป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล ดังนี้
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ในฐานะที่ปรึกษาโครงการการทดสอบภาคสนามหลังคาเมทัลชีทเคลือบฉนวน TECO PU FOAM เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนเข้าสู่อาคาร
- ศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)
- ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ ซึ่งประกอบด้วย ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางอาคาร (CBIT) มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์
- บริษัท ทูฟ ซูด (ประเทศไทย) จำกัด (TÜV SÜD)
- องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)
2) Hercules เครื่องจักรอัตโนมัติซึ่งเป็นนวัตกรรมอัจฉริยะใช้ผลิตฉนวนกันความร้อน TECO PU foam มีขนาดเล็กกะทัดรัด ติดตั้งได้ทั้งโรงงานที่มีพื้นที่ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ควบคุมการผลิตด้วยโปรแกรมอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบเซ็นเซอร์ที่ทันสมัย สามารถผลิตได้กับวัสดุหลากหลายพื้นผิววัสดุ อาทิเช่น เมทัลชีท, กระเบื้อง, อะคริลิค ไม้ และโพลิเมอร์ และผลิตฉนวนกันความร้อนได้หลายรูปแบบด้วยเครื่องเดียว อีกทั้งสามารถควบคุมความหนาได้อย่างสม่ำเสมอทำให้มีความสวยงาม ตามโครงสร้างพื้นผิวทั่วทั้งแผ่น ไม่หลุดล่อน อายุการใช้งานยาวนาน”
และยังมีโปรโมชั่นพิเศษ! โปรโมชั่นสุดคุ้ม เฉพาะงานนี้เท่านั้น
ภายในงาน The Future of Sustainable Constructions. ESG & NET ZERO MATERIAL นวัตกรรมไทย เพื่อความยั่งยืนนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นพ.ฉัตรพล คงเฟื่องฟุ้ง ศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง แพทย์ผู้บริหารคลินิกและโรงพยาบาล ศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางไอดีแอล, พี่หลาม จิ๊กโก๋ไอที จากช่องล้ำหน้าโชว์ และคุณโตโน่ ภาคิน แขกรับเชิญสุดพิเศษที่จะมาร่วมพูดคุยเรื่อง สิ่งแวดล้อมและการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำร้ายโลก พร้อมมอบเสียงเพลงให้กับทุกคนที่มาร่วมงานอีกด้วย ร่วมถึงการให้ความรู้ด้านนวัตกรรมและสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกสีเขียว จากผู้ทรงคุณวุฒิ ดร.จิตติ มังคละศิริ, น. สพ. ดร. สนัด วงศ์ทวีทอง, คุณนันทพัชร ณ สงขลา และ ผศ. ดร.ขวัญชัย จันทนา
นอกจากนี้ ผู้มาเยี่ยมชมงานจะได้รับความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับนวัตกรรมไทย เพื่อความยั่งยืนในงานก่อสร้าง, การต่อยอดอนาคตธุรกิจก่อสร้างด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศและการก้าวสู่สังคม Net Zero ทั้งนี้ คุณธนากรกล่าวต่อไปว่า TECO PU FOAM ซึ่งได้รับการรับรอง Carbon Footprint of Product ขอเป็นฉนวนรักษ์โลกที่ไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกทำลายชั้นโอโซน จะทำให้ผู้มาเยี่ยมชมงานได้สัมผัสสินค้าจริง พร้อมฟังเสียงยืนยันจากผู้ใช้จริง ตลอดจนการสาธิตการผลิต TECO ฉนวนกันความร้อน ซึ่งบริษัทฯ จะยกเครื่อง Hercules สำหรับการผลิตฉนวนกันความร้อน TECO PU FOAM ให้ได้ชมกระบวนการทำงานแบบใกล้ชิด”
ที่สำคัญ เฉพาะภายในงาน The Future of Sustainable Constructions ESG & NET ZERO MATERIAL วันที่ 20 มีนาคม 2568 วันเดียวเท่านั้นที่ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย บริษัทฯ ได้มอบโปรโมชันสุดคุ้มสำหรับ TECO PU FOAM ฉนวนกันความร้อน และ Hercules เครื่องผลิตฉนวนกันความร้อน นวัตกรรมใหม่ที่ “คุ้มค่า คุ้มราคา คุ้มการลงทุน”
(*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)