ข่าว และ กิจกรรม

News & Event

PU Foam ช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงไหม? วิเคราะห์จากการใช้งานจริง

PU Foam ช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงไหม? วิเคราะห์จากการใช้งานจริง
หลังคาร้อน แก้ยังไงดี?

ในยุคที่ค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าของบ้าน โรงงาน และผู้ประกอบการจำนวนมากเริ่มมองหาวิธี ลดค่าไฟในระยะยาว หนึ่งในคำถามที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุดคือ
“ติดฉนวน PU Foam แล้วช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงหรือไม่?”
หรือเป็นเพียงการลงทุนที่ดูดีในเชิงทฤษฎีเท่านั้น

บทความนี้จะพาคุณมาวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ตั้งแต่หลักการทางกายภาพ พฤติกรรมการใช้พลังงาน ไปจนถึงประสบการณ์การใช้งานจริง เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล ไม่ใช่เพียงความเชื่อหรือคำโฆษณา

ทำไมอาคารถึงสิ้นเปลืองค่าไฟมากกว่าที่คิด

ก่อนจะตอบว่า PU Foam ช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงหรือไม่ เราต้องเข้าใจก่อนว่า ค่าไฟในอาคารส่วนใหญ่เกิดจากอะไร
ในสภาพอากาศของประเทศไทย ความร้อนจากภายนอกจะเข้าสู่อาคารผ่าน 3 ช่องทางหลัก ได้แก่
1. หลังคา
2. ผนัง
3.ช่องเปิด เช่น ประตู หน้าต่าง
ในบรรดาทั้งหมด หลังคาเป็นจุดที่รับความร้อนมากที่สุด โดยเฉพาะอาคารที่ใช้หลังคาเมทัลชีทหรือโครงสร้างโลหะ เมื่อแสงแดดส่องกระทบหลังคาตลอดทั้งวัน ความร้อนจะสะสมและถ่ายเทลงสู่ภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ
– อุณหภูมิภายในสูง
– เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก
– ใช้ไฟฟ้ามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หลักการประหยัดพลังงานของฉนวน PU Foam

ฉนวน PU Foam (Polyurethane Foam) เป็นฉนวนกันความร้อนแบบพ่นที่มีโครงสร้าง เซลล์ปิด (Closed-cell) ซึ่งแตกต่างจากฉนวนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อพ่น PU Foam ใต้หลังคา โฟมจะขยายตัวและแนบสนิทกับพื้นผิว ทำให้เกิดชั้นฉนวนที่
– ไม่มีรอยต่อ
– ไม่มีช่องอากาศให้ความร้อนผ่าน
– ลดการนำความร้อนจากหลังคาเข้าสู่อาคาร
ในเชิงพลังงาน สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงต่อ ภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ เมื่อความร้อนจากภายนอกถูกลดทอนตั้งแต่ต้นทาง ระบบทำความเย็นไม่จำเป็นต้องทำงานหนักเหมือนเดิม

PU Foam ประหยัดค่าไฟได้อย่างไร (มองแบบเข้าใจง่าย)

การประหยัดค่าไฟจาก PU Foam ไม่ได้เกิดจาก “ตัวฉนวนสร้างความเย็น”
แต่เกิดจากการ ลดภาระที่เครื่องปรับอากาศต้องรับ
ลองเปรียบเทียบง่าย ๆ
– อาคารที่ไม่มีฉนวน → แอร์ต้องสู้กับความร้อนจากหลังคาตลอดเวลา
– อาคารที่มี PU Foam → ความร้อนเข้ามาน้อยลง แอร์ทำงานเบาลง

ผลที่เกิดขึ้นคือ
-ใช้ไฟน้อยลงต่อชั่วโมง
– เครื่องปรับอากาศตัดบ่อยขึ้น
– ระยะเวลาการทำงานรวมต่อวันลดลง
– ทั้งหมดนี้สะสมเป็น “ค่าไฟที่ลดลง” ในแต่ละเดือน

วิเคราะห์จากการใช้งานจริง: บ้านพักอาศัย

ในบ้านพักอาศัยที่ติดตั้ง PU Foam ใต้หลังคา ผู้ใช้งานมักพบว่า
– บ้านเย็นขึ้นอย่างรู้สึกได้ แม้ในช่วงกลางวัน
– แอร์ใช้เวลาน้อยลงในการลดอุณหภูมิ
– ห้องชั้นบนที่เคยร้อนจัด มีอุณหภูมิเสถียรมากขึ้น

แม้จะไม่ได้วัดเป็นตัวเลขทางวิศวกรรมทุกกรณี แต่สิ่งที่เห็นชัดคือ พฤติกรรมการใช้แอร์เปลี่ยนไปเช่น เปิดแอร์น้อยลง เปิดในช่วงเวลาสั้นลง หรือปรับอุณหภูมิสูงขึ้นได้โดยยังรู้สึกสบาย

วิเคราะห์จากการใช้งานจริง: โรงงานและโกดังสินค้า

ในโรงงานอุตสาหกรรม ผลของ PU Foam จะเห็นชัดยิ่งกว่า เนื่องจาก
– พื้นที่หลังคาขนาดใหญ่
– ความร้อนสะสมสูง
– ระบบปรับอากาศหรือพัดลมอุตสาหกรรมใช้ไฟจำนวนมาก
– หลังจากติดตั้งฉนวน PU Foam ใต้หลังคา โรงงานจำนวนมากพบว่า
– อุณหภูมิภายในลดลงอย่างสม่ำเสมอ
– ระบบระบายอากาศทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น
– ค่าไฟฟ้าโดยรวมลดลงในระยะถัดมา
ที่สำคัญคือ สภาพแวดล้อมการทำงานดีขึ้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพแรงงานและอายุการใช้งานของเครื่องจักร

PU Foam กับแนวคิด “คืนทุนจากค่าไฟ”

คำถามที่ตามมาคือ
“ติด PU Foam แล้วคุ้มไหม?”
แม้ PU Foam จะมีต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าฉนวนบางประเภท แต่เมื่อพิจารณาในมุมธุรกิจและการใช้งานระยะยาว สิ่งที่ต้องมองคือ
– อายุการใช้งานของฉนวน (10–20 ปี หรือมากกว่า)
– ค่าไฟที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
– ค่าซ่อมบำรุงที่ต่ำ
ในหลายกรณี การประหยัดค่าไฟเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เมื่อสะสมหลายปี สามารถชดเชยต้นทุนการติดตั้งได้ และหลังจากนั้นคือ “กำไรทางพลังงาน”

PU Foam เหมาะกับใครบ้าง หากเป้าหมายคือการประหยัดค่าไฟ

PU Foam จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนเป็นพิเศษกับอาคารประเภทต่อไปนี้
– บ้านที่มีปัญหาหลังคาร้อน
– บ้านที่ใช้แอร์เป็นประจำ
– โรงงานอุตสาหกรรม
– โกดังสินค้า
– อาคารที่มีหลังคาเมทัลชีทหรือหลังคาโค้ง
โดยเฉพาะอาคารที่ใช้พลังงานสูงอยู่แล้ว การลดความร้อนเพียงเล็กน้อยสามารถแปลงเป็นการประหยัดค่าไฟจำนวนมากได้

แล้ว PU Foam รุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานจริง

การเลือกฉนวน PU Foam ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาสำหรับสภาพอากาศร้อนชื้น และการใช้งานจริงในอาคารขนาดใหญ่
เช่น TECO PU FOAM ซึ่งถูกพัฒนาเพื่อการใช้งานกับหลังคาเมทัลชีท โรงงาน และอาคารอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ช่วยให้ได้ประสิทธิภาพการกันความร้อนอย่างสม่ำเสมอและยั่งยืน

สรุป: PU Foam ช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงไหม?

คำตอบคือ “ได้จริง”
แต่ไม่ใช่ในลักษณะของการลดค่าไฟแบบฉับพลันในวันเดียว
PU Foam ทำงานในฐานะ ระบบลดการสูญเสียพลังงาน
ยิ่งใช้นาน ยิ่งเห็นผลชัด

หากคุณมองการติดฉนวนเป็นการลงทุนระยะยาว ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายครั้งเดียว
PU Foam คือหนึ่งในทางเลือกที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนทั้งในด้านความสบาย ค่าไฟ และอายุการใช้งานของอาคาร

Facebook
Twitter
LinkedIn

Relate News

PU Foam ช่วยประหยัดค่าไฟได้จริงไหม? วิเคราะห์จากการใช้งานจริง

T.A.S Corporation Co.,Ltd.

T.A.S Corpration

Product Inquiry

[fluentform id="1"]